ในยุคนี้กาแฟกับชามาแรงกันทั้งคู่นะครับ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าใครๆก็ต้องดิ่มกันทั้งนั้น โดยเฉพาะชานมไข่มุก ทั้งนี้ทั้งนั้นผมขอมาพูดโดยรวมว่าทั้งสองอย่างให้ประโยชน์อย่างไรบ้าง

1.ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ กับโรคหลอดเลือดสมองแตก
สารพอลิฟีนอล (Polyphenols) ในชาและกาแฟเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ การศึกษาได้พบว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ กับโรคหลอดเลือดสมองแตกได้ (Ding et al., 2014) จากงานวิจัยทำให้เราพบว่าคนที่ดื่มชามากกว่า 1 แก้วต่อวัน จะมีความเสี่ยงโรคทางหัวใจน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่ม (Miller, et al., 2016) และผลงานวิจัยอื่นๆก็ได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำชาอย่างน้อย 3 แก้วต่อวัน ไม่ว่าจะชาดำหรือชาเขียว ก็สามารถลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมองแตก ได้ 21% (Arab et al., 2009)

2.ช่วยลดโรคเบาหวานชนิด 2 (Diabetes Type 2)
โรคเบาหวานชนิด 2 คือภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูงซึ่งแพทย์เรียกกันว่า Hyperglycemia โดยมีอยู่สองสาเหตุที่ก่อให้เกิดระดับน้ำตาลในเลือดสูง คือ ภาวะดื้อต่ออินซูลิน และการลดระดับของการผลิตอินซูลินในร่างกายของคุณ ซึ่งสองปัจจัยนี้ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จากงานวิจัยพบว่า คาเฟอีนจะเพิ่มน้ำตาลในกระแสเลือด แต่สารพอลิฟีนอลจะเป็นตัวเพิ่มภาวะความไวต่ออินซูลินที่จะช่วยความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิด 2 ในระยะยาว (Bhupathiraju et al., 2013) ส่วนสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำชาจะช่วยให้มีการใช้งานของน้ำตาลในเลือดมากขึ้น (Mahmoud, et al., 2016)

3.ช่วยชะลอความผิดปกติของระบบประสาท
งานวิจัยบางงานได้แนะนำว่าคาเฟอีนสามารถลดการเกิดของโรค Parkinson ในช่วงแรกๆได้ และงานวิจัยอีกหลายงาน ก็ได้รายงานว่าการดื่มชากาแฟเป็นประจำในระยะยาวจะช่วยไม่ให้เกิดโรค Parkinson ได้ และจากการศึกษาเป็นเวลา 22 ปี พบว่าคนที่ดื่มกาแฟสามารถลดความเสี่ยงได้จริงเทียบจากคนที่ไม่ดื่มกาแฟเลย (Hu, G. et al., 2007) อีกงานวิจัยนึงก็บอกว่า การดื่มชาเชียวอย่างน้อย 5 แก้วต่อวันจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม (Tomata et al., 2016)

คำเตือน: การดื่มของกาแฟและชาก็มีโทษได้เหมือนกัน
เนื่องจากสองอย่างนี้มีคาเฟอีนอยู่ การดื่มเยอะๆจะทำให้รู้สึกหัวใจเต้นแรง ปวดหัว และเป็นโรคนอนไม่หลับ และมากกว่านั้น การดื่มแบบปกติหรือ decaf (คาเฟอีนลดลง) ก็ยังทำให้มีปัญหาทางเดินอาหาร มะเร็งต่อมลูกหมากและโรคกระเพาะปัสสาวะ แต่นั้นก็จะเป็นได้ต่อเมื่อดื่มมากๆ ถ้าให้ดีดื่มชาแทนจะอุ่นใจกว่าครับ


สรุป การดื่มชากาแฟมีประโยชน์ครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีผลข้างเคียงหน่อยๆด้วย สำหรับคนที่กังวลก็สามารถดื่มชาสมุมไพรหรือกาแฟ Decaf แทนได้ครับ และก็ถ้าอยากได้รับประโยชน์เต็มที่ไม่ควรดื่มแบบที่ใส่นมอย่าง latte หรือ หวานๆแบบพวก caramel macchiatoa นะครับ

Ref.:

Arab, L. et al. (2009). Green and black tea consumption and risk of stroke: a meta-analysis. Stroke, 40, 1786–792.

Bhupathiraju, S.N. et al. (2013). Caffeinated and caffeine-free beverages and risk of type 2 diabetes. American Journal of Clinical Nutrition, 97, 155–66.

Ding, M. et al. (2014). Long-term Coffee Consumption and Risk of Cardiovascular Disease: A Systematic Review and a Dose-Response Meta-Analysis of Prospective Cohort Studies. Circulation, 129, 643–659.

Hu, G. et al. (2007). Coffee and tea consumption and the risk of Parkinson’s disease. Movement Disorders: Official Journal of the Movement Disorder Society, 22, 2242–2248.

————————————————————————

โหลดแอพพลิเคชัน CalCal แบบฟรีๆ ได้แล้วใน App Store และ Google Play

iOS: bit.ly/CalCaliOS
Android: bit.ly/CalCal

————————————————————————

สำหรับคนที่มีคำถามเกี่ยวกับการออกกำลังกาย สามารถคอมเม้นได้ในโพสนี้เลยค่า เดี๋ยวโค้ชบีมจะมาตอบในทุกๆข้อสงสัยให้เพื่อนๆเอง ส่วนสำหรับใครที่สนใจจะออกกำลังกาย เปลี่ยนแปลงหุ่น เปลี่ยนชีวิตตัวเอง สามารถติดต่อโค้ชบีมด้วยการเรียนแบบตัวต่อตัว PT (Personal Trainer) และแบบกลุ่ม นัดเจอกันที่ฟิตเนสหรือตามบ้าม ตามคอนโด สอนตรงตามเป้าหมายของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นแบบลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก สร้างกล้าม หรือให้ใช้ชีวิตดีย่ิงขึ้น และอีกส่วนนึงคือแบบ “1-on-1 Online Training” ที่จะสอนแบบเทรนออนไลน์ สอนโดยที่นักเรียนไม่ต้องนัดเจอกัน เรียนผ่านแอพพลิเคชั่น Line โดยโค้ชบีมจะจัดตารางออกกำลังกาย ตารางอาหารให้ตรงตามเป้าหมายผู้เรียนอีกด้วย

#fitwithbeam #ฟิตกับบีม #CalCal #LifestyleCalorieManagement#สุข(ภาพ)นิยมในแบบของคุณ