สวัสดีค่าเพื่อนๆ ห่างหายไปนาน แอดกลับมาแล้วววว ช่วงนี้แอดกำลังฟิตหุ่นโดยการกลับมาวิ่งแหละ ซึ่งวันนี้แอดมีทริคเล็กๆน้อยๆ ที่จะช่วยทำให้เพื่อนๆสามารถวิ่งได้นานขึ้น และ ผอมได้เร็วขึ้น!!! กันค่าาา

เพื่อนๆเคยสงสัยไหมคะว่าทำไมกันน๊า เวลาเราไปวิ่ง จะเห็นผู้คนมากมายใส่หูฟังแล้วเปิดเพลงฟังกัน ซึ่งจริงๆแล้ว การฟังเพลง หรือ การเพิ่มจังหว่ะเวลาวิ่งนั้นไม่ใช่เพียงแค่ทำเพื่อสร้างความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เราสามารถวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

“ธรรมชาติของมนุษย์จะมีความสามารถในการตอบสนองกับเสียงเพลงทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์ คล้ายกับว่ามันโดนฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก” กล่าวไว้โดย Costas Karageorghis เป็นนักจิตวิทยาการกีฬาและผู้เขียนหนังสือ Applying Music in Exercise and Sport หรือก็คือดนตรีจะช่วยกระตุ้นให้สมองตื่นตัว เพิ่มพลังในการเคลื่อนไหวให้แก่ร่างกายนั่นเอง

จากการศึกษาของเค้า พบว่าดนตรีนั้นจะช่วยส่งผลให้ เรารู้สึกอารมณ์ดีขึ้น (ถ้าไม่ฟังเพลงอกหักน่ะนะ…) ลดการรับรู้การออกแรงชะลอเวลาที่จะอ่อนเพลียและเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่สภาวะลื่นไหล (flow state) อย่างมีนัยสำคัญนอกจากนี้ Costas ยังศึกษาได้อีกว่านักปั่นจักรยานที่ทำตามจังหว่ะเพลงที่เค้าแนะนำสามารถลดการใช้ออกซิเจนได้ 7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับผู้ที่ฟังเพลงโดยไม่เชื่อมโยงกับจังหวะของดนตรีที่เหมาะสม 

Costas แนะนำช่วงจังหวะที่เหมาะสมกับเป้าหมายในการวิ่งไว้ดังนี้โดยใช้หน่วย BPM (Beats per minute)

120 – 125 BPM  ช่วงจังหวะที่เหมาะสำหรับการวิ่ง Jogging
140 – 145 BPM  เหมาะสำหรับการฝึกซ้อมวิ่งเพื่อเพิ่มความเร็ว
150 – 180 BPM  ช่วงจังหวะที่เหมาะสำหรับนักวิ่งมีเป้าหมายให้สามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง นานขึ้น อึดขึ้น หรือต้องการที่จะเพิ่มความเร็วในการวิ่งเพื่อการแข่งขัน

ทั้งนี้แต่ละคนอาจจะมีจังหว่ะเพลงที่ไม่เหมือนกัน การเลือกเพลงที่ฝืนธรรมชาติของเรามากเกินไป อาจจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม โปรดจำไว้ว่าไม่มีจังหว่ะใดที่เหมาะสมกับนักวิ่งทุกคนนะคะ ดังนั้นเราควรที่จะเลือกจังหว่ะเพลงที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดดีกว่า

แล้วเราจะหาจังหว่ะวิ่งที่เหมาะกับเราได้ยังไงกันล่ะ?

ก่อนที่เราจะเลือกว่าจะใช้เพลงที่มีจังหว่ะกี่ BPM เราควรรู้ว่าการวิ่งของเรามีค่ากี่ BPM เสียก่อน โดยสามารถทำได้ดังนี้ให้

1) เราวิ่งบนลู่วิ่งโดยใช้ความเร็วปกติ หรือ Easy pace
2) จับเวลาวิ่ง 60 วินาที แล้วนับจำนวนก้าวของ เท้าขวา ที่แตะลงพื้น
3) นำค่าที่ได้มาคูณสอง 

นั่นคืออัตราการวิ่งที่เราสามารถทำได้ ของการวิ่งแบบธรรมาติปกติ ซึ่งถ้าเพื่อนๆอยากลองที่จะวิ่งให้เร็วขึ้นก็ลองค่อยๆขยับความเร็วขึ้นมาทีละนิดนะคะ อีกสิ่งนึงที่จะส่งผลต่อการวิ่งก็คือ ความหมายของเพลง นั่นก็เพราะร่างกายของเรามีแนวโน้มที่จะตอบสนองเพลงที่เราชอบได้ดีกว่านั่นเองค่า ทีนี้เพื่อนๆก็สามารถเลือกจังหว่ะเพลงที่เหมาะสมกับเพื่อนๆได้แล้วนั่นเอง เย้!! ^^

————————————————————————

สามารถโหลด CalCal แบบฟรีๆทั้งใน App Store และ Google Play นะคะ ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
iOS: bit.ly/CalCaliOS
Android: bit.ly/CalCal

————————————————————————

#CalCal #LifestyleCalorieManagement #สุข(ภาพ)นิยมในแบบของคุณ #เลือกเพลงในการวิ่ง