
1) คบเพื่อนผิดกลุ่ม
เรารู้อยู่แล้วว่าต้องการ ถ้าคุณต้องการหุ่นก็ต้องคบเพื่อนที่พากันออกกำลังกาย ไม่ใช่คบเพื่อนที่พาแต่ไปกินบุฟเฟ่ต์ทุกๆวัน
2) ลืมให้รางวัลตัวเอง
หากเราจะไดเอททั้งที ทำไมต้องคุมอาหารให้เครียดๆด้วยทั้งทีน้ำหนักก็ลงดี อย่างงี้ต้องมีชีทเดย์บ้าง ทุกๆอาทิตย์หรือ 10 วันทีนึง ให้ร่างกายได้พักผ่อนบ้างครับ
3) ไม่สนใจโภชนาการ
ผลลัพธ์ของการไดเอทส่วนใหญ่เกิดมาจากการคุมอาหาร 70% ดังนั้นแล้วเราจะกินมั่วๆไม่ได้ หุ่นที่เราต้องการก็มาจากการคุมอาหารทั้งนั้น จะกินอะไรทีนึงต้องมีสติด้วยนะครับ
4) ไม่ขอความช่วยเหลือ
มันเป็นเรื่องที่โอเคมากๆเลยนะที่ขอความช่วยเหลือ ถ้าเรามัวแต่ทำไปเรื่อยๆลองผิดลองถูกแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ อย่าเพิ่งผิดหวังไป ขอความช่วยเหลือจากเทรนเนอร์ หรือโค้ชก็ได้ อย่างผมก็พร้อมช่วยเสมอครับ
5) มองข้ามรายละเอียด
การตั้งเป้าหมายแบบละเอียดช่วยทำให้เรามีแบบแผนที่ดี แต่ก็ไม่ควรมองข้ามรายละเอียดเล็กน้อยที่เป็นปัจจัยของคุณได้
6) ผัดวันประกันพรุ่ง
เมื่อเราสร้างเป้าหมายแล้ว กำหนดวันแล้วอย่าเลื่อนเป็นอันขาด ยิ่งเลื่อนเท่าไหร่เป้าหมายที่คุณจะถึงก็ยิ่งห่างไกลเท่านั้น
7) กลัวความล้มเหลว
เป็นเรื่องปกติครับที่เราจะทำเฟล หรือทำผิดพลาด ทุกครั้งที่เราทำคือการเรียนรู้ อย่าคิดมากเก็บมันไว้เป็นบทเรียน
8) ไม่ติดตามผลลัพธ์
หลายๆครั้งที่เราต้องการจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แต่ไม่เคยดูเลยว่าผลลัพธ์แต่ละครั้งที่เราออกกำลังกายเป็นไงบ้าง เช่น เราต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ แต่เอาแต่เล่นมั่วๆในยิม ไม่เคยดูเลยว่าตัวเองเล่นท่าไหน น้ำหนักเท่าไหร่ แบบนี้ก็ทำให้เราไม่ไปถึงไหน
9) ใจร้อนไป
ใครๆก็สนแต่ผลลัพธ์เสมอ ยิ่งทำอะไรเร็วๆโดยที่ไม่ได้ตั้งเป้าหมาย อยากได้ 6-Pack ใน 1 อาทิตย์โดยที่ไม่วางแผนให้เรียบร้อย ก็ยิ่งทำให้เฟลมากขึ้นเท่านั้น จะทำอะไรต้องใจเย็นๆเสมอไว้ครับ ไม่มีใครเป็นแชมป์โลกได้ในวันเดียว
10) คิดมากไป
ในส่วนนี้ใครๆก็เป็น คิดว่าออกกำลังกายนั้นเหนื่อย ทำไปแล้วเดียวไม่มีเวลาเล่นเกม ไม่มีเวลาไปกินเหล้า หากคุณคิดมากขนาดนี้ เป้าหมายที่คุณอยากจะทำให้สำเร็จ ก็ยิ่งเป็นไปยาก ดังนั้นอย่าเอาแต่คิด แต่ลงมือทำไปเลย อย่างไงเราก็ต้องเผชิญอะไรในทางข้างหน้าอยู่แล้ว
11) ไม่มีบัดดี้
ตั้งเป้าหมายคือเรื่องนึง แต่ถ้าทำขาดแรงบันดาลใจก็จบเลย อย่าลืมนะครับว่าถ้ามีคนคอยช่วยผลักเรา อะไรก็ยิ่งไปง่ายขึ้น และนี้เองละครับว่าทำไมคุณต้องจ้างเทรนเนอร์มาช่วยดูแลคุณ ผลักให้คุณไปไกลยิ่งกว่าเดิม
12) สร้างเป้าหมายที่ใหญ่ไป
หากคุณสร้างเป้าหมายที่จะลด 4 กิโลในเดือนนึง มันอาจจะดูยากไป ผมก็แนะนำให้มองแคบลง เช่นเราต้องลดน้ำหนักให้ได้ 1 กิโลต่อสัปดาห์
13) ไม่สม่ำเสมอ
การทำอะไรสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีวินัยนะครับ หากคุณออกบ้างไม่ออกบ้างแล้วแต่อารมณ์ จะไม่พาคุณไปไหนเลยครับ
14) ไม่โฟกัสอย่างใดอย่างนึง
หลายๆครั้งเรามักจะโลภมากเสมอ หวังจะเอาหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ทางที่ดีเราควรโฟกัสแค่อย่างเดียวพอ เช่น ฉันต้องการวิ่งมาราธอนให้ได้ อยากไปเพาะกายในเวลาเดียวกัน เป็นผมจะแนะนำให้ทำอย่างเดียวก่อนไม่งั้นไปไม่ถึงสักอันครับ
15) ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้
อย่าตั้งเป้าหมายอะไรที่มันเวอร์จนเกินไป เช่นฉันอยากจะลดน้ำหนัก 20 กิโลในเดือนนึง แบบนี้จะอันตรายต่อสุขภาพไป ให้ตั้งเป้าหมายที่ต้องเป็นไปได้กับความเป็นจริง เช่น ฉันจะลด 2-4 กิโลในเดือนนึง
16) ตั้งเป้าหมายไม่ละเอียด
การตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องดีครับแต่ของแบบนี้ต้องมีรายละเอียดด้วย เช่น ฉันจะลดน้ำหนัก อย่าบอกแค่ลดน้ำหนักอย่างเดียวมันไร้เป้าหมาย ให้คิดมากกว่านี้ คิดรายละเอียดมากขึ้น เช่นฉันจะลดน้ำหนักอย่างน้อย 1 กิโลต่อสัปดาห์ จะเข้ายิมอย่างน้อย 3 วันต่ออาทิตย์
หมดไปแล้วนะครับ 16 ข้อที่คุณไม่ควรหลีกเลี่ยง หากทำผิดผลาดแล้วก็อย่าเศร้าใจไปครับ คนเราทำผิดพลาดได้เสมอ ทุกอย่างคือบทเรียนเราสามารถเริ่มกันใหม่ได้ วันนี้ไม่ดีพรุ่งนี้อาจจะดีกว่าเดิมก็ได้ ทุกทางมีทางออกเสมอครับ เราแค่ต้องใจเย็นและค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบร้อนไปไหน ยิ่งรีบเท่าไหร่ก็ยิ่งผิดหวังเสมอครับ
โค้ชบีม
Hybrid Coach
#16ความผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง #newyearresolution #motivation #goal #fitness #gym #mistake
#fitwithbeam #ฟิตกับบีม #calcal